the fast 10 Operation Fortune ปฏิบัติงานระห่ำ โคตรคนฟอร์จูน หนึ่งในผลงานปัจจุบันของผู้กำกับ “กาย ริตชี” ที่เข้าฉายในบ้านพวกเราชนกันกลางเมษายนอย่างงี้ (อีกหนึ่งเรื่องเป็น The Covenant) ก็คือหนังแอคชั่นสายค้างโหลดอง “Operation Fortune: Ruse de guerre ทำการระห่ำ โคตรคนฟอร์จูน” ที่ยังคงสไตล์ความเป็นหนังคุณกายก้าวหน้า กับกองทัพดาราชั้นยอดเป็นตับ และก็กระทำการสายที่แทรกสอดถ้อยคำและก็ความบาดใจแบบรู้จัก
Operation Fortune: Ruse de guerre เล่าราวของ ข้าราชการผู้ที่มีความชำนาญด้านอาวุธที่ MI6 ถูกเรียกตัวให้มาช่วยทำภารกิจออกติดตามและก็ยั้งวิธีขายอาวุธเผาผลาญประเภทใหม่ ซึ่งอาวุธนี้ได้เป็นภัยรุกรามความสงบสุขของโลก เพื่อจะเข้าถึงจุดมุ่งหมายได้ เขาจะต้องแบล็กเมล์ศิลปินชายหนุ่มมีชื่อให้มาร่วมภารกิจด้วย โดยการทำครั้งว่าเขากำลังจะสวมบทบาทเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน คนกลางอาวุธ ในหนังที่มหาเศรษฐีผู้นี้กำลังจะลงทุนสร้างให้
ดูหนังออนไลน์ฟรี the fast 10
แน่ๆว่าหนังก็ยังคงเป็นการควบคุมแล้วก็เขียนบทโดย กาย ริตชี อีกเหมือนเคย โดยเขาได้ผู้สนับสนุนคนเขียนที่รู้จักดีกันดี อย่าง “อีแวน แอตคินสัน” กับ “มาร์น เดวีส์” ที่ร่วมงานกันมาในผลงานแอคชั่นสุภาพบุรุษมาหลายเรื่อง โดยกลับมาในคราวนี้พวกเขาได้พากเพียรสร้างภาพยนตร์แอคชั่นผสมถ้อยคำอารมณ์ขัน กับรายละเอียดการสอบปากคำที่เข้มข้นและก็เต็มไปด้วยพนัน
แม้กระนั้นโชคร้ายอย่างยิ่งที่ว่า Operation Fortune: Ruse de guerre ยังค่อนข้างจะเต็มไปด้วยส่วนประกอบจำนวนมากที่ขาดๆเกินๆอยู่ รวมทั้งยังเป็นหนังที่บทเต็มไปฉากเจรจาแบบไม่มีหยุด ถึงจะเป็นยังมีท่วงทีรวมทั้งรักษาเอกลักษณ์ของสไตล์ผู้กำกับเอาไว้อยู่ กับการมีนักแสดงชั้นหนึ่งมากไม่น้อยเลยทีเดียวในร่วมแข่งหน้าที่
แต่ว่าพลังศิลปินของพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะดึงดูดสายตาได้พอเพียง ดูหนังfast10 กับจังหวะแล้วก็ส่วนประกอบที่ยังไม่บางทีอาจเข้าถึงได้มาก พูดได้ว่าถ้าหากคนไหนกันแน่จะมามองหาหนังบู๊เดือดๆกับหัวข้อนี้บางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องผิดหวังกลับไปตอนครึ่งแรกของ Operation Fortune: Ruse de guerre ยังออกจะไร้ซึ่งเสน่ห์ที่ต้องมีไปหน่อย
ถึงจะเป็นตอนที่ปฏิบัติภารกิจปูเรื่องรวมทั้งเสนอแนะติดอยู่แรกเตอร์ต่างๆกลับยังปฏิบัติหน้าที่ออกมาได้ไม่แจ่มว้าวพอเพียง ส่วนใดส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเหตุว่าการวางแบบติดอยู่แรกเตอร์นักแสดงที่ยังไม่ค่อยมีมิติมากแค่ไหน เมื่อรวมกับงานสร้างที่ไม่รู้เรื่องว่าทุนไม่มากหรือไม่ แม้กระนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หนังขาดความสมจริงสมจังแล้วก็น่าไว้วางใจได้พอควรเลย
“เจสัน สเตธัม” ก็ยังคงมารับบทแบบบ่อยๆเดิมๆสไตล์เขาอีกรอบ ติดอยู่แรกเตอร์ของเขานั้นเกือบจะไม่มีความแตกต่างไปจากผลงานก่อนๆเยอะแค่ไหนเลย กระบวนการเล่นและก็ท่าทางการแสดงก็ยังทำออกมาเดิมๆถึงมันจะเป็นเอกลักษณ์ที่เฉพาะบุคคลสำหรับเขา แต่ว่าโชคร้ายที่การจับท่าทางนี้มาใช้หนังของเขาประเด็นนี้ยังไม่ค่อยเวิร์กสักเท่าไหร่ เจสัน ก็ เจสัน ดังเดิมนั่นแหละ
จะมีก็เพียงแค่ “ออเดรย์ พลาซา” ที่ลักขโมยซีนรวมทั้งโปรยปรายเสน่ห์ในหนังประเด็นนี้ได้อย่างพลิกล็อก แม้กระนั้นผู้แสดงเอลิสต์ผู้อื่นไม่ว่าจะเป็น “ฮิวจ์ มึงรนต์” หรือ “หน้าจอช ฮาร์ตเน็ต” ที่ทำเป็นแค่เพียงถอนใจเบาๆด้วยเหตุว่าน่าผิดหวังไปสักนิดสักหน่อย ที่หนังได้ศิลปินเบอร์ขนาดนี้มาแข่งขันหน้าที่บนหน้าจอแบบแน่นอนกลับถ่ายทอดออกมายังไม่ค่อยเวิร์กเท่าไร หน้าที่นักแสดงแต่ละตัวนั้นยังออกจะแห้ง เอาดาราหนังอาชีพมานำราวกับเป็นดาราสมัครเล่นอะไรทำนองนั้น
The Covenant
ถึงคิวผลงานใหม่อีกหนึ่งเรื่องของผู้กำกับ “กาย ริตชี” ที่ได้ได้โอกาสลงโรงฉายในประเทศไทยแบบชนกันทั้งคู่เรื่อง (อีกประเด็นก็คือ Operation Fortune: Ruse de guerre) ในอาทิตย์ช่วงกลางเดือนม.ย. รวมทั้งประเด็นนี้เป็น “The Covenant” ที่มาพร้อมด้วยโหมดเอาจริงเอาจัง พกกองกำลังทหารสหรัฐอเมริกา มาอย่างมาดแมน แม้กระนั้นเนื้อแท้ของหนังหัวข้อนี้แทรกสอดไปด้วยใจความสำคัญมิตรภาพ ความมุ่งมาด รวมทั้งจังหวะในการทำศึก ที่ดีไม่ดีบางครั้งก็อาจจะจำต้องเสียน้ำตาให้ด้วย
The Covenant เกิดเรื่องราวของ นายสิบสิบเอก จอห์น คินลีย์ กับ อาเหม็ด ล่ามภาษาชาวอัฟกัน ที่จำเป็นต้องระเหเร่ร่อนต่อสู้ป่าตาลีบานด้วยกัน ภายหลังจากกองกำลังของพวกเขาได้ถูกซุ่มจู่โจมอย่างมากถ่วง โดยที่อาเหม็ดได้บากบั่นอย่างเต็มกำลังเพื่อช่วยจอห์นเอาไว้ให้ได้ แต่ว่าเมื่อจอห์นฟื้นขึ้นมาทราบดีว่า อาเหม็ดยังคงหลบๆแอบซ่อนๆอยู่ที่อัฟกานิสถาน ที่ตาลีบานได้หมายหัวเขาเอาไว้จากความกล้าหาญที่เขาได้ช่วยเหลือทหารอเมริกันเอาไว้ ทำให้เขาเลือกที่จะกลับไปสู่สนามรบตนเองอีกที เพื่อช่วยเหลือ…สหายร่วมรบ
และอีกเหมือนปกติ The Covenant ก็ยังคงได้ผลสำเร็จการงานเขียนบทหนังของ 3 ทหารเสือหน้าคุ้น กาย ริตชี ร่วมด้วย อิแวน แอตคินสัน กับ มาร์น เดวีส์ ที่พวกเขาทั้งคู่คนต่างประสานมือกันเขียนบทและก็ปรับปรุงบทมาด้วยกันในผลงานหลายๆประเด็นนี้ สำหรับในหนังประเด็นนี้นั้นนับว่ามีกลิ่นที่ต่างไปจากงานเดิมของพวกเขาอยู่ไม่น้อย หากว่ามันจะยังแทรกสอดกลิ่นความเป็นหนังสุภาพบุรุษแนวถนัดอยู่ไปบ้าง แม้กระนั้นกับมีเส้นเรื่องและก็ส่วนประกอบอื่นที่หนักแน่นมากกว่า
โดยจะว่าไปแล้ว The Covenant ถือได้ว่าหนังที่มีซีนและก็ท่วงทีที่ชื่นชมกองทัพสหรัฐอเมริกา the fast 10 อยู่พอได้ แม้กระนั้นพวกเขาก็มิได้ทำออกมาเป็นหนังกองทัพจ้ะๆแบบชักชวนมันอะไรทำนอง กลับสดุดหน้าที่เล็กๆที่สำคัญในการรบกับตาลีบานที่คงจะถูกละเลยไป อย่างข้าราชการล่ามภาษาพื้นบ้าน ที่ถือได้ว่าหนึ่งในกองกำลังที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และก็เสี่ยงอันตรายกับการมีชีวิตอยู่ในสังคม เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่สำหรับในการแปลภาษาให้กับข้างศัตรูของรกรากของพวกเขา
จะต้องเห็นด้วยว่าโครงเรื่องกล้วยๆของหนังเป็นจุดที่ทำให้มันเวิร์กได้ดิบได้ดี เมื่อมาเพิ่มเติมกับการเล่าเรื่องที่มิได้มีอะไรสลับซับซ้อน The Convenant ก็เลยแปลงเป็นหนังแอคชั่นทางด้านการทหารที่มองได้บันเทิงใจเพลิดเพลินเอาการ เรื่องราวค่อนๆสองเท่าความเข้มข้นเป็นลำดับขั้นของเหตุการณ์ที่หนังผลิตขึ้นมาในแต่ละซีน ถึงมันจะยังมีจุดที่เกินจริงและไม่มีเหตุผลปนเปอยู่ไปบ้าง แม้กระนั้นหนังก็มอบความเพลิดเพลินแบบที่ผู้ชมอยากได้ได้อย่างดีเยี่ยม
โลเคชั่นของหนังประเด็นนี้นับว่าแจ่มมากมาย แน่ๆว่าพวกเขาเป็นไปไม่ได้ไปถ่ายทำในสถานที่จริงอยู่แล้ว แม้กระนั้นการเลียนแบบบรรยากาศของอัฟกานิสถานในหนังประเด็นนี้จัดว่าค่อนข้างจะใช้ได้ทีเดียว หากว่าที่จริงแล้วในหนังพวกเขาจะถ่ายทำอยู่ในประเทศสเปนเป็นหลัก ส่วนมุมภาพแล้วก็มุมกล้องถ่ายรูปก็ยังไม่ทิ้งลวดลายของ กาย ริตชี วิธีต่างๆบางครั้งอาจจะมิได้มีลูกเล่นอะไรเยอะแค่ไหน แต่ว่ามีส่วนสำหรับเพื่อการช่วยบิวท์อารมณ์และก็บรรยากาศของหนังไว้ในจังหวะที่ดี
ยิ่งมาได้เรื่องแสดงที่เป็นมือโปรของ “เจค จิลเลนฮาล” เข้าไปด้วย ยิ่งทำให้หนังเต็มไปด้วยอรรถรสเข้าไปใหญ่ เขามอบการแสดงที่เด็ดขาดสไตล์ของเขา เล่นน้อยแม้กระนั้นให้ออกมามากมาย ถึงจะมิได้เป็นการแสดงระดับมาสเตอร์พีชอะไร แต่ว่าเขาก็คือผู้แสดงหลักที่หามหนังหัวข้อนี้เอาไว้ได้ดีเยี่ยม เหมือนกับ “ดาร์ ซาลิม” ที่ไม่เอ่ยถึงมิได้เลย นับว่าบทส่งให้เขาอยู่ไม่น้อย แม้กระนั้นค้างแรกเตอร์นี้เต็มไปด้วยนานาประการมุมให้น่าตรวจสอบ รวมทั้งเขาก็ทำออกมาเจริญ ในลักษณะไม่ค่อยพูดต่อยหนัก
The Mother
ถ้าหากจะพูดถึงชื่อ “เจนนิเฟอร์ โลเปซ” คุณก็คือเอนเตอร์เทนเนอร์ตัวท็อปของฮอลลิวูดที่เรืองรองอยู่ในแวดวงมายาวนานกว่า 30 ปี ออกอัลบั้มร้องเต้นได้เป็นมือโปร รวมทั้งยังวาดลวดลายแอคติ้งมีผลงานการแสดงเป็นที่ปรากฏชัด แต่ว่าในคราวนี้พวกเราจะได้เห็นภาพที่ต่างไปจากเดิมของคุณ เนื่องจากว่าใน “The Mother” ถือได้ว่าเป็นการกลับมาจับปืนและก็ออกโรงบู๊ในรอบนับเป็นเวลาหลายปีของคุณ คุณจะมาเป็นมือสังหารสาวเหี้ยมโหดเจริญเท่าๆกับสาวเชิญชวนฝันในหนังรอมคอมแนวถนัดไหม?
The Mother เกิดเรื่องราวของมือสังหารสาว the fast 10 ที่ผ่านการฝึกอบรมสุดทรหดจากกองทัพมาอย่างเชี่ยวชาญ แต่ว่าคุณได้ตกลงใจออกมาจากแหล่งหลบซ่อนที่กบดานมานับสิบปี เพื่อมาป้องกันบุตรสาวของตนเองที่ไม่เคยเจอหน้ารวมทั้งมีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันมาก่อน แม้กระนั้นบุตรสาวกำลังตกอยู่ในอันตรายจากเหล่าผู้ร้ายสุดขาดความกรุณาปรานีที่ติดตามมาทวงแค้นคุณ คุณก็เลยมีภารกิจเดียวเป็น..ป้องกันบุตรสาวให้รอดพ้น
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับหญิง “นิกิ ค้างโร” ที่ถือได้ว่างานล้างตาแล้วก็ล้างดวงใจจาก Mulan ที่เปลี่ยนเป็นผลงานที่คุณถูกวิภาควิจารณ์เยอะแยะไปสักนิดสักหน่อย แน่ๆว่าข้อดีของผู้กำกับเพศหญิงนี้ถืองานสร้างที่เพียรพยายามส่งเสริมแล้วก็ขับความแข็งให้กับผู้แสดงนำหญิงที่คุณมันจะทำเป็นเสร็จอยู่ตลอดๆนับจากผลงานแจ้งกำเนิดของคุณใน Whale Rider เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าใน The Mother จะเป็นเพียงแต่หนังแอคชั่นดราม่าปกติที่มองผิวเผิน สล็อตออนไลน์ ใหม่ๆ แล้วมันก็ไม่ค่อยจะแตกต่างจากเฟรนไชส์หนังเชื้อสาย Jason Bourne อะไรทำนองนั้น เพียงแค่ในคราวนี้ปรับนิสัยละครหลักเป็นมือสังหารหญิงแทน โทนและก็กลิ่นของหนังคล้ายกับหนังบอร์น แต่ว่าส่วนประกอบแล้วก็เค้าเรื่องของหนังประเด็นนี้บางครั้งก็อาจจะมิได้หนักแน่นได้เสมอกัน เนื่องจากบทหนังก็ยังเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จเดิมๆ
The Mother มองทรงรวมทั้งเหมือนกับเน็ตฟลิกซ์ต้องการจะสร้างภาพยนตร์แอคชั่นสไตล์ Extraction ที่บรรลุความสำเร็จมากมายๆของพวกเขา แต่ว่าปรับจากวีรบุรุษชายมาเป็นวีรบุรุษหญิงแทน ท่าทางคล้ายกันแต่ว่ายังไม่เข้มข้นแล้วก็มีเชิงชั้นได้ถึงระดับนั้น หนังใช้กลุ่มผู้เขียนบทถึง 3 คน ที่นับได้ว่าเป็นท็อปๆทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น “ไมชา กรีน” (จากซีรีส์ Lovecraft Country), “อันเดรีย เบอร์ลอฟ” (จาก Straight Outta Compton) แล้วก็ “ปีเตอร์ เคร็ก” (จาก The Batman) แม้กระนั้นยังโชคร้ายไปสักนิด ที่บทหนังน่าจัดจ้าได้มากกว่านี้
แต่ว่าจังหวะสูตรสำเร็จของหนัง ก็จัดว่ายังคงใช้ได้กับ The Mother อยู่ การเล่าเรื่องปกติก็สามารถเร่งเร้าให้หนังมองได้เพลิดเพลินดีได้ในระดับที่ถูกใจ หนังมีตัวละครที่ออกจะมากมายเช่นกัน ถึงแม้หนังจะยังไม่อาจจะเกลี่ยการให้ความใส่ใจแล้วก็มิติของติดอยู่แรกเตอร์ได้เพียงแค่ผิวเผินไปสักนิดสักหน่อย แต่ว่าก็มิได้บ่อนทำลายอารมณ์และก็บรรยากาศของหนังไปสักเท่าไหร่
แน่ๆว่า เจนนิเฟอร์ โลเปซ รับหน้าที่เป็นนางหามให้กับหนังประเด็นนี้เต็มๆพวกเราบางครั้งก็อาจจะเคยชินกับคุณในหนังโรแมนติกตลกโปกฮามากยิ่งกว่า แม้กระนั้นการกลับมาสู่จังหวะของหนังดราม่าของคุณ ก็ทำให้เชื้อเชิญนึกถึงแล้วก็ยิ่งซ้ำเติมความสามารถการแสดงของคุณได้ชัดๆว่า คุณก็คือดาราที่ดีคนหนึ่งเหมือนกัน บางครั้งอาจจะครู่หนึ่งใหญ่ๆแล้วที่เจโลสวมบทดราม่าแอคชั่นแนวๆนี้ แต่ว่าคุณก็สามารถจัดการกับมันเอาไว้ได้อย่างน่าพึงพอใจทีเดียว
